อภินันท์ บัวหภักดี บรรณาธิการฝ่ายภาพอนุสาร
อสท.ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพทั้งบนบกและใต้น้ำแสดงความเห็นตามประสบการณ์
ที่ตนเคยเจอะเจอมา ซึ่งครั้งหนึ่งเขาคิดว่าเตรียมตัวมาดีแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเรื่องของสถานที่มาอย่างดี คำนวนแสง เงา
หรือแม้แต่มุมถ่ายภาพ เรียกว่าถูกที่ถูกเวลา แต่เหมือนโชคชะตาไม่อำนวย
เนื่องจากฟ้าปิดหมดหรือที่แย่ไปกว่านั้นเพราะบางทีฝนตกลงมา
ในสถานการณ์อย่างนี้อภินันท์บอกว่าทำได้อย่างเดียวคือ “ทำใจ”
“นั่น
เป็นปัญหาของการถ่ายภาพธรรมชาติ ซึ่งต้องให้ฟ้าฝนเป็นใจด้วย
แต่สำหรับการถ่ายภาพวิถีชีวิตผู้คนซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของผมนั้น
พูดตรงๆว่าต้องประกอบด้วยกันเป็น 2 ส่วนคือ เรื่องของการ Make
และเรื่องของทีเผลอ มันก็ต้องได้ทั้ง 2 ส่วน
รวมทั้งการร้อยเรียงภาพเข้ามาประกอบเรื่องด้วย เรื่องกับภาพต้องไปด้วยกัน
สำหรับการถ่ายสารคดีท่องเที่ยว ความงามของภาพต้องนำมาก่อน
ต้องมีอะไรหลากหลายกว่าภาพที่ประกวดทั่วไป
ซึ่งภาพประกวดก็อาจจะแค่ภาพเดียวจบและภาพนั้นต้องสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้
ในภาพเดียว แต่ภาพสารคดีมันจะเล่าเรื่องจากต้นไปจนจบ”
แต่
เหตุการณ์ฟ้าไม่เป็นใจอย่างในกรณีฟ้าปิดนั้น คงจะใช้ไม่ได้กับนพดล กันบัว
ช่างภาพประจำอนุสาร
อสท.เหตุเพราะพี่นพดลบอกว่าชอบมากหากมีภารกิจต้องไปถ่ายภาพในป่า
เพราะการที่ไม่มีแดดส่องลงมาเลยนั้นทำให้ภาพต้นไม้ใบหญ้าไม่มีเงาทอดผ่าน
ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดได้ทุกซอกทุกมุม
แต่ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นการถ่ายภาพน้ำตก
ซึ่งพี่นพดลบอกว่าสามารถอยู่ได้เป็นวันๆ ไม่มีเบื่อ
สำหรับอุปกรณ์
ซึ่งถือได้ว่าเปรียบเสมือนเครื่องมือหากินของเหล่าช่างภาพนั้น
สำคัญจริงๆคือกล้องถ่ายรูป นอกจากกล้องแล้ว หลักๆก็น่าจะเป็นขาตั้งกล้อง
ขาดไม่ได้ แล้วก็ฟิลเตอร์จำพวกฟิลเตอร์PL(โพลาไรซ์) ถ้าถ่ายพวกป่าพวกน้ำตก
แต่ถ้าถ่ายพวกทะเลหมอกแล้วก็ฟ้าสวย ๆ เราก็อาจจะมีฟิลเตอร์สี สีฟ้าครึ่งซีก
จะเป็นครึ่งซีกข้างบนจะเป็นสีฟ้า ข้างล่างจะเป็นสีใสธรรมดา
ใช้บังท้องฟ้าให้มันมีสีขึ้นมาหน่อย แล้วก็ฟิลเตอร์เกรดูเอท
ที่ข้างบนเป็นสีเทา เพราะว่าเราบังไปแล้วทำให้ฟ้ามันไม่สว่างมาก
แทนที่จะเป็นสีขาวฟิลเตอร์พวกนี้ก็ช่วยได้ แล้วก็สายลั่นชัตเตอร์
ก็ถือว่าสำคัญ”
“แต่ก็มีหลาย ๆ คนที่ดูรูปจากใน
อสท.แล้วบอกว่าภาพนี้หลอก ทำไมไปแล้วไม่สวยเหมือนในรูปเลย
ความจริงแล้วกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปกว่าจะตื่นมันก็สายหรือบางคนตื่นเช้า
จริง แต่ว่าที่ผมสังเกตดูถือว่ากล้องช่วยอย่างหนึ่ง
บางครั้งภาพที่ตาคนเรามองไม่เห็น แต่กล้องสามารถช่วยบันทึกได้ เช่น สีต่าง ๆ
ที่เราจะสังเกตว่าช่วงเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจะมีสีสวยมาก ท้องฟ้าหรือเมฆ
ซึ่งบางครั้งตาเรามองไม่เห็น
แต่พอถ่ายรูปแล้วกล้องสามารถจับสีจับภาพพวกนั้นไว้ได้
อันนี้เป็นข้อดีของกล้องของฟิล์มที่สามารถบันทึกไว้ได้ ซึ่งช่วงที่สวยจริง ๆ
มันมีอยู่ซัก 10 นาที 20 นาทีแค่นั้นเอง”
เมื่อสอบถามถึงการ
บันทึกภาพในระบบฟิล์มกับระบบดิจิตอล พบว่าช่างภาพส่วนใหญ่ของทีมงานอนุสาร
อสท.ต่างยังคงวางใจเลือกใช้ฟิล์มในการบันทึกภาพ
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะยังคงมั่นใจในประสิทธิภาพของฟิล์ม
เพราะคิดว่าให้คุณภาพดีกว่าในเรื่องของสีสัน และความละเอียดของภาพ
แต่ก็ไม่ได้ยึดติดหากในอนาคตกล้องดิจิตอลมีคุณภาพดีพอ
สรุปที่ผมคิดว่าน่าสนใจมาแค่นี้ อ่านเต็ม ๆ ก็ตามนี้ครับ
http://www.manager.co.th/Travel/View...=9480000068182
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น